Bromo & Ijen Crater

สวัสดีครับผม Por Witchayen วันนี้ผมจะมารีวิวทริปที่ผมได้ไปเที่ยวที่ Indonesia นั้นก็คือ Bromo mountain, Ijen Crater, Blawan waterfall, Madakaribura waterfall และ whispering sand

ก่อนจะลงรายละเอียดเรื่องเที่ยวนะครับ เดี๋ยวมาดูข้อมูลคราวๆ กันก่อน

สมาชิกทั้งหมดของผมมี 6 คน โดยผมเดินทางทั้งหมด 5 วัน 4 คืน  (6-10 พฤษภาคม 2560)

ค่าเครื่องบินไปกลับ 6 คน 40,428.66 บาท โหลดกระเป๋า 20 kg อีก 3,110.66 บาท ครับ อันนี้คือ 6 คนโหลดกระเป๋าแค่ 1 ใบ 20 kg นะครับ  (สายการบิน Jetstart นะครับ พักเครื่องที่ Singapore)

(ชื่อ ไกด์ Adi )ค่าไกด์ 16,500,000 Idr ประมาณ 16,500,000*0.00265=43,725 บาท ต่อ 6 คนนะครับ
หมัดจำ 2,500,000 idr, จ่ายวันที่ 8 อีกครึ่งหนึ่ง และก็วันที่ 9 ส่วนที่เหลือ ตามนี้ครับ ไม่ไว้ใจทางไม่วางใจคนนะครับเพราะเพิ่งรู้จักกัน

ค่าไกด์นี้คือรวม
1.โรงแรม
2.ค่ารถที่พาเราเดินทางไปที่ต่างๆ
3.ค่าขี่ม้า ขาไปขาเดียวนะครับ
4.ค่าไกด์พื้นที่นั้นที่พาเราไปนู้นนี้นั้น
5.ค่ามอเตอร์ไซด์
6.ค่ารถ jeeb
7.ค่าน้ำดื่ม
**** หมายเหตุ : เอาง่ายคือเราซื้อข้าวเที่ยงกับข้าวเย็นกินเอง ประมาณนั้นครับ

ส่วนนี้คือแพลนที่ไกด์ทำให้นะครับ

Itinerary on 6 may – 10 may 2017
On 6 may

1. Pick you up in the surabaya airport at 8.05 pm ( local time )
2. Meet with us around at 9.00 pm and then go to hotel near with airport

On 7 may

1. Wake up at 7.00 am then shower, breakfast, packing bag and check out and then drive to ijen ( arabica or catimor homestay ) around 7 hour by car
2. 12.00 or 1.00 pm lunch time on the way
3. Arrived to hotel around at 4.00 pm
4. Before check in to hotel, we are can visit to blawan waterfall
5. Check in
6. 6.30 pm diner in the hotel
7. 8.00 pm rest for to sleep
8. Wake up at midnight ( 12.00 ) prepare for to see blue flame, blue lake of ijen crater

On 8 may

1. Start from hotel at 12.30 night go to ijen parking area by car
2. 1.30 night climb to ijen crater
3. 7.30 am back to hotel
4. Shower and breakfast
5. Packing bag and check out and then drive to bromo
6. Lunch time
7. Arrived to hotel in bromo around at 5.30 pm
8. Diner
9. Rest for to sleep

On 9 may

1. Wake up at 2.30 am prepare for to see sunrise to pananjakan view point by jeep 4×4 WD
2. Start from hotel at 3.00 am go to pananjakan view point by jeep
3. Arrive to pananjakan view point at 4.15 am then waiting sunrise coming
4. 5.30 am sunrise coming
5. 6.00 am finished take photo then going down to sea sand by jeep
6. 7.00 am climb to bromo crater
7. 8.00 am visit to savana and whispering sand
8. 9.00 am back to hotel
9. Breakfast, shower, packing bag, check out and then drive to madakaripura waterfall
10. Go to surabaya hotel
11. Check in and rest

On 10 may

1. Drop off to airport at 10.55 am

End the trip

And say you goodbye

แต่นี้คือแพลนที่ผมทำเองครับ

Bromo schedule
เดี๋ยวเรามาฟังเรื่องการเดินทางของผมเลยดีกว่านะครับ

6 May 2017

ผมไปถึงสนามบินประมาณ 7 โมงเช้า แต่เครื่อง take off 9.25 ที่พวกผมไปเช้าแบบนี้ก็เพราะต้องไปแลกตังที่ Super rich สีเขียวครับ โดยพวกผมแลกเงินกันคนละประมาณ 10,000 บาท แต่เอาตามจริงๆ นะครับ เท่าที่ใช้จริงๆ แค่ 6,000 บาทก็พอครับ เราใช้แค่ซื้อข้าวเที่ยง เย็น เครื่องดื่ม แต่ใครจะแลกไปเยอะก็ไม่ว่ากันเพราะเวลาแลกกับเป็นเงินบาทคือค่าไม่ต่างกันมาก ตอนผมซื้ออัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 0.00265 ตอนขายอยู่ที่ 0.00262 ไม่ต่างกันมาก แต่ถ้าแนะนำขอแนะนำให้แลกตังไปคนละ 10,000 บาท กำลังพอดี ไปแบบสบายใจ

***หมายเหตุ : ขอแนะนำให้โทรจองการแลกเงินกับ Super rich ก่อนนะครับ เพราะว่าไม่ค่อยมีเงินสกุล IDR ของพวกผมโทรจองกันไว้ครับ

หลังจากแลกตังเสร็จพวกเราก็ซื้อข้าวซื้อไรกินที่สนามบินให้เรียบร้อยก่อนไปเช็คอิน เข้า gate  ของกลุ่มพวกผมโหลดกระเป๋าแค่ 20 kg ใบเดียว อย่างที่บอกไปข้างต้น แค่นี้ก็พอแล้วครับ

ขอแนะนำนะครับก่อนออกเดินทางให้เอายาไปด้วย โดยเฉพาะยาพารา เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย อันที่สองคือหน้ากากกันฝุ่นธรรมดาคนละ 1 อัน

โอเครครับเครื่องเราออก 9.25 ใช้เวลาเดินทาง 2 hr 25min ในสนามบิน Changi ประเทศ Singapore เวลา 12.50 นี้คือเวลา Singapore นะครับ เร็วกว่าไทย 1 ชม. จากนั้นพวกเราพักเครื่องที่ Singapore ประมาณ 5 hr ก็กินข้าวเที่ยงนี้เลย ถ้าใครอยากซื้ออะไรที่นี้ก็ตามสบายเลยครับ เดินเล่นเดินอะไรตามสะดวก

ที่สนามบินนี้มี wifi ให้เล่นฟรี 3 hr แต่ต้องใช้ passport (3hr ต่อ 1 คน) แต่เพื่อนคงคิด พักเครื่องตั้ง 5 ชม. จะมี wifi เล่นพอหรอ หลังจากที่เราได้ wifi 3hr มาแล้ว ให้เราโหลดแอป iChangi ลงไปมือถือแล้วเปิดแอปนี้ เราก็จะเล่น wifi ได้ 24 hr เลยครับ  ที่สนามบินเราพักกันที่โซน C ร้านอาหารชั้น 2 มีจะมี Subway และอื่นๆ ผมจำไม่ได้ มีที่ชาร์ตแบต เสียบปลั๊กได้  ลืมบอกไปครับ ขาปลั๊กที่เราต้องเตรียมไปคือขากลมนะครับ (ที่ 7-11 ที่ไทยมีขายครับ)

บอกเลยครับว่าวิวสวยมาก มีที่ให้นอนฟังเพลงชิลๆ ด้วยครับ

หลังจากนั้นพวกเราก็ไปขึ้นเครื่องไป Surabaya airport ประเทศ Indonesia ต่อที่โซน D ครับ เครื่องพวกเราออกเวลาประมาณ 18.45 ใช้เวลาเดินทางถึง Indonesia ประมาณ 2hr 20 min จากนั้นเราถึงสนามบิน Surabaya ประมาณ 20.05 เวลาที่อินโดเท่ากับเวลาไทยครับ จากนั้นใช้เน็ตที่สนามบินติดต่อไกด์ให้มารับ  เน็ตที่สนามบินนี้ใช้ฟรี บางคนสงสัยว่าจะหาซื้อซิมมือถือเล่นเน็ตที่ไหน ที่สนามบินมีครับราคาประมาณ 100,000 IDR แต่เวลาคนขายพูดเขาจะว่าแค่ 100 อันนี้ให้เข้ากันว่ามันคือ 100,000 idr

ตัวอย่าง
ถ้ามีคนบอกว่าสินค้านี้ราคา 23 มันคือ 23,000 idr นะจ๊ะ

มาต่อเรื่องซิมมือถือของพวกเราฝากไกด์ซื้อข้างนอกราคา 80,000 idr ถูกกว่าในสนามบิน 20,000 idr เน็ตประมาณ 10 GB แต่พอดูราคาบนซิม  เหี้ยกูโดนหลอกนี้ว้า ราคา 50,000 idr แต่ก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ถูกกว่าที่สนามบิน

หลังจากที่เราติดต่อไกด์ได้ ไกด์ก็มารับเราที่สนามบินเวลา ประมาณ 20.30 โดยไกด์จะชูป้ายกระดาษที่เขียนเป็นชื่อผมว่า Welcom POR เพื่อให้เราเห็น  หลังจากนั้นเขาก็พาพวกเราไปกินข้าว โดยนั่งรถตู้สีแดง

โทษทีนะครับผมจำชื่อร้านอาหารไม่ได้ แต่อาหารรสชาติถือว่าโอเคร ส่วนเมนูที่ขายจะเป็นไก่กับปลาซะส่วนใหญ่

โทษทีนะไม่มีรูปอาหารให้ดูเลย ไม่รู้ว่ารูปมันหายไปไหน เรากินไปทั้งหมดประมาณ 450,000 idr จัดหนักสำหรับมื้อแรกพอสมควร หลังจากที่กินข้าวเสร็จไกด์ก็ได้พาเราไปที่พักชื่อ Bromo Permai Hotel ที่ใกล้ๆ กับสนามบิน ใช้เวลาเดินทางแค่ 8 นาทีก็ถึงละ  ครั้งแรกไกด์ติดต่อห้องไว้ 3 ห้องนอน นอนห้องละ 2 คน แต่มีเหตุผิดพลาดอะไรไม่รู้จึงได้แค่ 2 ห้อง แต่ไกด์ก็ขอโทษอยู่อ่ะ ว่าเป็นความผิดของเขา แต่พวกก็ไม่ได้ว่าอะไรมาก เราถึงที่พักประมาณ 21.00

ห้องพักถือว่าโอเครครับมีแอร์ น้ำอุ่น เครื่องอาบน้ำให้ทุกอย่าง แต่ขอบอกอย่างหนึ่งนะครับว่า WIFI ไม่ค่อยโอเคร ช้ามาก ถ้าเขาไปในห้อง คือเล่นไม่ได้เลยมีสัญญาณนะแต่เล่นไม่ได้ ที่โรงแรมมีอาหารเช้าให้มีให้เหลือ 2 เมนู คือข้าวคลายๆ ข้าวผัด กับขนมปังปิ้ง ให้เราเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วก็บอกเวลาว่าจะกินเวลาไหน  พวกเรากินตอน 6.30 เพราะต้องออกทาง 8.00 เช้าของวันพรุ่งนี้  หลังจากเก็บของอะไรเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็ออกไปเดินเล่นหาอะไรกินนู้นนี้นั้นไปเรื่อย ลองกินอะไรใหม่ดู  อ่อลืมบอกไปบริเวณเขตนี้ไม่มีเหล้าเบียร์ขายเลยครับ เพราะเป็นเขตมุสลิม

ต่อครับ พอเราเดินไปเรื่องก็เจอมินิมาร์ร้านหนึ่งก็เลยเข้าไปลองซื้ออะไรกิน ไปเจอเครื่องดื่มอันหนึ่งคลายๆ เบียร์แต่แอลกอฮอล์ 0% แต่ขอบอกรสชาติแย่มาก ฮ่าๆ

นี้ไงครับเครื่องดื่มที่ผมลองซื้อกิน ของแนะนำซื้ออันอื่นกินดีกว่าไม่ต้องลองแล้วเบียร์ 0% ฮ่า หรือผมลองผิดอันก็ไม่รู้ ถ้าใครอยากจะลองไม่ว่ากัน มีหลายยี่ห้อครับลองดูๆ หลังจากลองเครื่องดื่มเสร็จพวกเราก็ไปต่อกันที่ร้านน้ำปั่นผลไม้

ร้านนี้น้ำปั่นผลไม้รสชาติพอใช้ได้ครับ บางคนอาจจะไม่ชอบนะครับ คนเราชอบไม่เหมือนกัน อิอิ และลองดูได้ครับผม หลังจากลองนู้นนี้กันจนเสร็จเรียบร้อย ก็เดินทางกลับโรงแรม อาบน้ำพักผ่อนกันครับ จบสำหรับวันแรก

7 May 2017

เช้าของวันที่สอง พวกเราก็อาบน้ำตื่นมากินข้าว 6.30 ตามที่ได้นัดกับโรงแรมไว้ ก็เริ่มบรรเลงการกินเลยครับ ฮ่าๆ

อีกเมนูเป็นเหมือนข้าวพัดนะครับ ขอโทษทีนะครับไม่มีรูป เพิ่งหัดเขียนรีวิว T_T

หลังจากกินข้าวเช้าก็เก็บของเดินทางไปที่ Abarica Hotel กันต่อครับ พอเดินทางไปเรื่อยๆ ก็แวะกินข้าวเที่ยงที่ปั้มน้ำมันกัน

เมนูครับ แต่ที่ไกด์แนะนำคือเมนูแรกครับ Mie Pangsit คลายก๋วยเตี๋ยวมาเราครับ รสชาติก็โอเครนะครับ

อ่อ ลืมบอกไปครับ ไกด์ที่มากับผมมี 2 คนครับ ไกด์ของผมจริงๆ คือ Adi ส่วนที่มาด้วยคือ Hadi คนนี้ฮาสมชื่อจริงๆ ครับพอดี Hadi เขาว่างเขาเลยมาด้วย สนุกดีครับ คนเยอะดี ฮ่าๆ หลังกินข้าวเที่ยงกันเสร็จพวกเราก็เดินทางกันต่อไปครับ  ลืมเอาบรรยากาศในรถให้ดูเลยครับ

สนุกครับในเปิดเพลงรัวๆ ไปครับ ฮ่าๆ ร้องได้บ้างไม่ได้บ้างมั่วกันเอาครับ

โอเครครับเดินทางกันต่อไปครับ เดินทางไปเรื่อยๆ จนเข้าเขตที่พัก Abarica จะมีป้ายทางเข้าเหมือนป้ายหมู่บ้านแถวบ้านเรา แต่มันจะมีวิวให้ถ่ายรูปครับ ไกด์เลยแวะจอดให้ถ่ายรูปกันสักพักใหญ่ๆ ก่อนจะเดินทางไปโรงแรม

จากนั้นเดินทางไปโรงแรมต่อเรื่อยๆ ครับ ก่อนจะเช็คอินโรงแรม ไกด์เขาจะพาไปแวะที่น้ำตก Blawan ก่อนครับ ถึงบริเวณพื้นที่น้ำตกเวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งอยู่ใกล้กับที่พัก ธรรมชาติสวย แต่สิ่งที่หน้าแปลกใจน้ำที่ไหลมาไปที่บริเวณน้ำตกนั้นเป็นน้ำอุ่น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หรือเป็นเพราะมันอยู่ใกล้กับ Ijen Crater ก็ไม่รู้

บรรยากาศก่อนถึงน้ำตกครับ

เดินไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีครับ ในที่สุดก็ถึงครับ จะรออะไรละก็ถ่ายรูปกันสิครับ

หามุมดีๆ แต่ภาพหลังถ่ายเสร็จภาพก็สวยละครับ สถานที่จริงสวยกว่าไปรูปมากครับ  ขออนุญาติเอารูปตัวเองลงนะครับผ่านแอปมาบ้างนะครับ ฮ่าๆ

หลังจากแวะถ่ายรูปที่น้ำตก Blawan waterfall เสร็จเวลาประมาณ 18.00 น. เวลาไม่แน่ใจเท่าไรนะครับ ก็เดินทางไปที่พัก Abarica hotel ต่อครับ ถึงโรงแรมเวลา 18.20 น. รูปโรงแรมหาดูในเน็ตนะครับ ลืมถ่าย ฮ่าๆ มันหนาว พอถึงที่พักเก็บของ แล้วก็กินข้าวกันที่ กับข้าวที่โรงแรมขายเป็นชุดครับ ชุดละประมาณ 100-200 บาทนี้แหละครับ ผมจำไม่ค่อยได้ แต่เขาจะเขียนว่าเป็นบุฟเฟ่ แต่สั่งได้แค่เชตเดียว แต่เบียร์ดีจำได้ดีขวดละ 60,000 idr ฮ่าๆ เป็นเบียร์ขอประเทศเขาครับไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูอีกตามเคย โทษทีนะครับ เพิ่งหัดเขียนรีวิวจริงๆ

นี้ละครับหน้าตาของอาหาร 1 เซต มี wifi ให้เล่นฟรีครับ แต่หลุดบ่อยนิดหนึ่ง สัญญามือถือไม่มีนะครับที่นี้ ฮ่าๆ อดไปครับใครที่ชอบเล่นเน็ต ต้องนั่งเล่นที่นี้อย่างเดียวครับ เพราะที่ห้องไม่มีครับ

หลังจากกินข้าวกินเบียร์เบาๆ เสร็จก็นอนพักกันครับเตรียมตัวออกเดินทางตอน 01.00 น. ดึกมาก เพื่อจะเริ่มเดินขึ้นเขาไป Ijen Crater

8 May 2017

เวลา 00.30 น. ของวันที่ 8 พวกเราได้ตื่นมาเตรียมตัวขึ้นเขาไปที่ Ijen crater ลืมบอกไปเลยว่าอากาศหนาวมาก ขอแนะนำทุกคนเอาเสื้อกันหนาวหนาๆ ไปด้วยนะครับ  สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับไปดู Blue Flame และ Ijen crater

1. เสื้อกันหนาวหนาๆ เลยครับ
2. รองเท้าผ้าใบ
3. เสื้อกันฝนคลุมทั้งตัว
4. หน้ากากแบบ Gas mask (อันนี้ของผมไกด์เตรียมให้นะครับ)
5. ไฟฉาย สำเดินทางการคืน
6. น้ำดื่ม

ประมาณนี้ครับสิ่งที่ต้องเตรียม จากนั้นเวลา 01.00 น. เราได้เริ่มออกเดินทางไปที่จุดเริ่มต้นจะขึ้น Ijen ถึงนั้นประมาณ 01.50 น. แต่ทาง local guide เขาให้ขึ้นพร้อมกันเวลาตั้งแต่ 02.00 น. เป็นต้นไป

นี้ครับภาพทางขึ้น แต่รูปนี้เป็นตอนลงมาแล้วนะครับ พอถึงเวลา 02.00 น. เริ่มเดินทางครับขึ้นเขาครับ ตอนนี้ฝนตกโปรยๆ ครับ ยังไม่ได้ใส่เสื้อกันฝน พอเดินทางได้สัก 30 นาทีฝนตกครับ รออะไรล่ะใส่เสื้อกันฝนสิครับ

ระยะทางการเดินทั้งหมด 3 km เริ่มต้นด้วยทางชัน 2 km แล้วก็ทางราบ 1 km ไกด์บอกว่าใช้เวลาในการเดินถึงจุดหมายเร็วสุด 2 ชม อยากจะบอกว่าทางขึ้นชันมาก เดินไปพักไปเรื่อยๆ ครับ ช่วงเดินขึ้นยังไม่หนาวมากเท่าไร พอเดินไปได้สัก 2 km มันจะมีจุดพักครับ มีห้องน้ำให้เข้า ไม่แน่ใจว่ามีของขายด้วยรึป่าว พอดีผมไม่ได้แวะเข้าไปดู จากนั้นเดินไปเรื่อยๆ เราถึงที่ดู blue flame หรือ Ijec crater เวลาประมาณ 04.00 น. ตรงจุดข้างบนที่นั้นรอให้ท้องฟ้าเคลียร์หมอกและฝนหยุด มันหนาวมากครับ ทั้งลม ทั้งฝน นั่งไปสักพักรู้สึกจะหมดหวัง เหี้ย แม่ง ฟ้าไม่เคลียร์แน่เลย ฝนก็ตกตลอด กูไม่ได้ถ่ายแน่เลย ระหว่างที่นั่งรอไปแล้วก็หลับไปด้วย

พอถึงเวลาประมาณเกือบตี 5 ร้องเฮ่กัน ฝนหยุด ท้องฟ้าเคลียร์ ในใจคิดกูได้ถ่ายรูปละ อันแรกผมก็คิดไอ้ Blue flame นี้มันคือลาวาป่าวว่ะ ตามจริงมันคือการจุดไฟใส่กัมมะถันที่ใกล้ๆ ปากปล่อง มันเป็นคลายหิน แต่จุดไฟติด เนื่องจากฝนตก ไกด์เลยไม่ให้เดินลงไปข้างล่าง ใกล้ จึงไม่สามารถถ่ายรูปมากให้ดูได้ ดูจากเน็ตนะครับทุกคน วิวที่ถ่ายรูปมีสองที่นะครับ ด้านล่างใกล้ๆ ปากปร่อง แต่ลงไปไม่ได้เพราะฝนตกมันลื่น อีกวิวหนึ่งคือด้านบน พวกเราได้ขึ้นไปถ่ายรูปด้านบนมาครับ แต่ลมแรง มีฝนโปรยๆ หนาวมากขอบอก เดินขึ้นจากจุดที่นั่งรอตอนแรกไม่ไกลมากครับ ประมาณ 50 m ช่วงนี้เวลาประมาณตีห้า ข้างบนนั้นเหมือนเช้ามากครับ สว่างไปหมด เดี๋ยวมาดูภาพกันเลย อาจจะไม่สวยมากนะครับ

ไอ้ควันๆ นี้คือ Blue flame ที่ดับไปนะครับ

พอถ่ายรูปได้ประมาณ 20 นาที ฝน ลม มาอีกรอบครับ ครามนี้ชุดใหญ่เลยครับ ต้องรีบเดินลงไป อยากจะบอกว่าข้างบนหนาวมาก ถึงขนาดเพื่อนผมต้องลงไปหลบลมในหลุมครับ อันนี้ฮ่ามาก

ถ้าไม่มีเสื้อกันฝนนี้คือเปียกหนักมากแน่นอนครับ แนะนำว่าบรรยากาศเหมือนฝนจะตกหรือไม่ ยังไงก็เอาเสื้อกันฝนติดตัวไปด้วยนะครับ เพราะอากาศข้างบนแปรปรวนมากครับ

บอกเลยครับงานนี้หนาวจริงๆ เดี๋ยวเรามาดูภาพบรรยากาศระหว่างเดินทางลงจาก Ijen crater กันครับ

หมอกเยอะมาก เออลืมเลยเอาหมวกไปด้วยก็ดีนะครับเวลาฝนตก ฝนจะได้ไม่สาดเข้าหน้าเราทำให้เดินทางลำบาก

จุดนี้แหละครับที่ผมบอกว่าเป็นจุดพักระหว่างทางให้เข้าห้องน้ำ

เดินลงก็ระวังลื่นกันบ้างนะครับ ดูจากสภาพทางเดินแล้ว มีลื่นหลายราย

ถึงสักที สังเกตรถข้างๆ ดีๆ นะครับ มันคือ TAXI สำหรับคนที่เดินลงไม่ไหวฮ่าๆ ไม่รู้ว่าราคาเท่าไรนะครับ ใครอยากลองนั่งดูเอาเลยนะครับ ผมขอบาย กลัวเขาเบรคไม่อยู่ ฮ่าๆ

นี้ครับ local guide ที่พาผมไป ตอนไปก็กลับโรงแรมกินข้าว อาบน้ำ เตรียมเดินทางไปที่ Bromo permai hotel เพื่อนที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และปากปล่องภูเขาไฟ bromo

บรรยากาศตรงที่กินข้าวของโรงแรม Abarica ตอนเช้าครับผม ลืมบอกไปอาหารเช้ามีแค่ข้าวพัดนะครับ แต่ฟรีจ้า กินข้าวกินอะไรเสร็จเก็บของ ออกเดินทางประมาณ 10.00 น. ไป Bromo Permai Hotel ต่อครับ

เขต bromo ใกล้จะถึงโรงแรมละ

นี้ครับหน้าตาโรงแรม  เออลืมบอกถึงโรงแรมประมาณ 17.00 น. มีอะไรจะบอกครับ ถ้ามีคนมาขายผ้าพันคอ หมวกไหมพรมอย่าซื้อนะครับ ที่โรงแรมมีขาย หรือร้านค้าข้างนอก จะถูกกว่ามากครับ อย่าซื้อกับคนที่เดินขายนะครับ และก็ใครที่ไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวตัวหนาๆ ไป ที่โรงแรมมีให้เช่านะครับ ราคาไม่แพงมากประมาณ 30,000 idr เดี๋ยวรอดูรูปพวกผมใส่กันเป็นทีมเลยละกันนะครับ และก็ที่โรงแรมขายผ้าพันคอ 10,000 idr หมวกไหมพรม 5,000 idr ราคาประมาณนี้ครับ หลังเก็บของอะไรเสร็จ ก็หาข้าวกินสิครับจะรออะไรล่ะ หิวมาก

ลองเดินดูรอบๆ โรงแรมดูครับ ของกินมีไม่ค่อยมาก

บรรยากาศข้างนอกโรงแรมครับ

(เจ้าของกล้องครับ แม็ค high cost ครับ) จุดจบคือกินที่โรงแรมครับ เพราะเบียร์เย็น อาหารมีให้เลือกพอสมควร พิซซ่า สเต็ก อะไรประมาณนี้ครับ

หลังจากกินข้าวอะไรเสร็จเรียบร้อยก็พากันไปซื้อหมวก ผ้าพันคอ เช่าเสื้อกันหนาวแจ๊คเก็ตกันจ้า แต่รูปค่อยดูตอนถ่ายที่จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ bromo เลยนะจ๊ะ พอดีลืมถ่ายไว้ ทำอะไรเสร็จหมดแล้วก็อาบน้ำนอนครับ ที่โรงแรมมีน้ำอุ่นให้อาบครับ เป็นน้ำที่ต้มไว้ เพราะอย่าเปิดน้ำทิ้งไว้นะครับ เดี๋ยวน้ำร้อนหมด จะไม่ได้อาบกันเพราะอากาศหนาวมากพอสมควร เราจะออกเดินทางไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอน 02.00 น. ได้นอนเยอะหน่อย

9 May 2017

เวลา 02.00 น. เริ่มออกเดินทาง รอบนี้แต่งชุดเต็มกันหนาวมาโดยเฉพาะ  ทางไกด์จะเอารถ jeep มารับเราที่โรงแรมเลยครับ โดยถ้าไกด์เราไปด้วย 1 คัน นั่งได้ 4 คนครับ เราเวลาประมาณ 1 ชม ในการเดินทางไปถึงจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และเดินขึ้นไปจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นไม่ไกลมาก น่าจะ 100-200 เมตร

พอเดินถึงจุดชมวิว อันนี้ต้องรีบเลยครับ จับจองพื้นที่ดูพระอาทิตย์ ขอแนะนำว่าให้หาที่ ที่ติดรั้วกัน แล้วอย่าขยับออกไปไหนเพราะจะมีคนอื่นมาแทรก แล้วก็หาที่รองนั่งไปด้วยหรือใครไม่กลัวสกปรกก็ไม่เป็นไร มันไม่ได้สกปรกมาก แต่ของผมไกด์มีให้

ลืมบอกไปครับระหว่างถ้าเดินขึ้นมันจะมีร้านขายของกิน พวกข้าว มาม่า อะไรประมาณนี้ ให้ซื้อไปนั่งกินแก้หนาวที่จุดชมวิวด้วยจะดีมากครับ

แต่ของผมไกด์มีให้ พร้อมเครื่องต้ม ต้มน้ำกินมาม่า กาแฟ ชา แม่งตรงนั้นเลย มีกลุ่มเดียวที่ทำแบบนี้บนจุดชมวิว รู้สึก VIP มากๆ ครับ ระหว่างรอน้ำเดือดก็ถ่ายรูปกับดาวบนฟ้าดิครับ จะรอไรละ

แนะนำว่าให้ถอดเสื้อกันหนาวถ่าย สีเสื้อต้องเด่นๆ แล้วก็หาสัญลักษณ์อะไรก็ได้ให้รู้ นี้ไงกูเอง ฮ่าๆ (คนในรูปคือ น้ำใส วิศวคอมฯ จากบริษัทดังแห่งหนึ่ง) เครดิตจากไกด์ hadi ครับ พอดีเขาเล่นกล้องด้วย ไกด์ผมจริงๆ คือ Adi นะครับเดี๋ยวจะงงกัน Hadi มาด้วยเฉยครับ เปลี่ยนกันเวลาขับรถ เขาเป็นเพื่อนกัน  ถ่ายรูปเสดก็กินมาม่าสิจ๊ะ รออะไรล่ะ

พอเริ่มจะสว่าง พระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว ก็เริ่มกระบวนการปีนรั้ว จับจ้องพื้นที่สิครับ อย่าช้าครับ เดี๋ยวไม่มีที่ถ่ายรูป ใช่ว่านั่งใกล้รั้วแล้วได้ที่นะครับ ความเร็วเป็นของปีศาจครับช่วงนี้ ฮ่าๆ

ขึ้นรอแม่งเลยครับ หนาวหน่อยแต่ก็ทนเอา ถ้าไม่จองบอกเลยว่าอดนะครับ (รูปนี้ผมเอง ฮ่าๆ ขออนุญาติลงนะครับ)

เพื่อนสวย รีวิวให้นางหน่อย (หมวดหลินครับคนนี้ พยาบาลทหารจ้า) รูปนี้ลงได้เพราะนางอัพลง facebook ละ ดูภาพคนข้างหลัง เยอะมาก

เป็นไงละครับ นี้แหละผมถึงบอกว่าต้องรีบจองพื้นที่ นี้คือด้านบนของจุดชมวิว

ตรงนี้ด้านล่างครับ

ให้เครดิตพี่ต้น พี่ชายหน่อยครับ เดี๋ยวเขาว่าไปเอามาจากเน็ต

มีความลับจะบอกอย่างหนึ่งถ้าอยากได้รูปสวยเดินลงไปด้านล่างของจุดชมวิวด้านอีกชั้นหนึ่ง ตอนพระอาทิตย์ขึ้นนะครับ ส่วนมากไกด์เขาจะไม่ค่อยพาไป บอกเลย ว่าได้ไกด์ดีมาก

เดินลงไปเรื่อยจนเจอต้นไม้สวยสองต้นครับ (บอกเลยว่าผู้หมวดเขาเป๊ะตลอดเวลา ถ่ายรูปมาคือสวย นางบอกสวยธรรมชาติไม่ได้แต่งหน้า)

นี้ไงครับต้นไม้ที่ผมบอก คนในรูปคือพี่ปูน (วิศวเคมี)

นี้ไงครับพี่ต้น เจ้าของภาพ Bromo ข้างบน

คนนี้ไกด์ผมครับ Adi ให้เครดิตเขาหน่อย เพราะเขาดูแลดีมาก

จริงๆ คือชอบต้นไหน ก็ปีนไปถ่ายรูปเอาละกัน แฟนคลับนาง มีคนขอถ่ายรูปด้วย ถ่ายรูปอะไรเสร็จ ก็ไปปีนปากปล่อง Bromo กันต่อครับ

บรรยากาศรูปในรถ jeep โดย MAC high cost ครับ รถ jeep เด่งมากนะครับ บางคนอาจจะคลื่นไส้ได้

แต่งหน้าในรถ jeep ได้คือขั้นเทพมาก นางเคยบอกสวยธรรมชาติครับไม่ได้แต่ง

ถึงละครับที่ๆ เราจะปีนไปดูปากปล่องภูเขาไฟ Bromo แต่ใครอยากจะขี่ม้า หรือจะเดินก็ได้นะครับ ที่ผมถามราคาดู 50,000 idr ให้ต่อได้มากกว่านั้นก็ลองดู ของผมไกด์จองให้ขาไปขาเดียว รวมอยู่ในค่าไกด์แล้ว เราเวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ถึงที่นี้เวลา 07.00 น. ไกด์ให้เวลาเดินทางขึ้นไปดูปากปล่องภูเขาไฟประมาณ 1 ชม 30 นาที

 

บรรยากาศพื้นที่โดยรอบครับ พอถึงจุดที่จะต้องเดินขึ้นด้วยเท้า จะมีวิวให้ถ่ายรูปภูเขาลูกหนึ่ง แต่ผมโชคดีมีม้าตัวหนึ่งยื่นนิ่งเป็นให้ถ่ายรูปด้วยตลอดเลย ไม่รู้มาใคร

นี้ไงครับม้าที่ผมบอก นิ่งมาก

ส่วนนี้คือภูเขาที่ผมบอก สวยป่าวครับ ให้เจ้ากล้องเขาหน่อยเด๋วไม่มีรูป

หรือจะถ่ายคู่กันแบบนี้

ภาพทางขึ้นครับ มันจะมีบันไดให้ขึ้น จะรออะไรละขึ้นสิครับ

 

ถึงสันเขาปากปล่องภูเขาไฟ Bromo สักที ถ้ายื่นอยู่ตรงจะได้ยินเสียงเหมือนน้ำเดือดดังพอสมควร มันคือเสียงของภูเขาไฟที่ยังปะทุอยู่

ภาพบรรยากาศของปากปล่องภูเขาไฟ bromo ที่ยังปะทุอยู่ครับ ที่เหลือก็เหลือเอานะครับว่าใครอยากถ่ายวิวไหน

เลือกเอาครับวิวไหนที่ชอบ

ขอรูปรวมสักรูปก่อนเดินลงไปครับ

บรรยากาศภาพด้านล่างระหว่างเดินลงครับ แต่ขากลับพวกผมขี่ม้ากลับกันครับ คนละ 50,000 idr อย่างที่บอกไปข้างต้น

พอลงมาแล้วมองกลับไปก็ยังสวยอยู่นะ

เห็นภาพนี้แล้วขำตลอด หาดูเองนะครับว่าขำตรงไหน ฮ่าๆ

บรรยากาศตรงที่จอดรถ jeep ก่อนขี่ม้า ให้หิวข้าวก็ซื้อกินที่นี้เลยนะครับสำหรับข้าวเช้า จากนั้นเราออกเดินทางต่อไปที่ทุ้งหญ้า savana แต่ไม่เห็นมีหญ้าเลย ใช้เวลาประมาณ 10-20 นาทีถึงที่หมายครับ บอกเลยว่าจุดเด่นของการถ่ายภาพ คือถ่ายภาพกับรถ jeep ฮ่าๆ

ขอรูปตัวเองหน่อยละกัน อิอิ ได้ถ่ายรูปประมาณ 20 นาที เพราะเหมือนฝนจะตก เลยต้องเดินทางไปต้องที่ Whispering sand เดินทางประมาณ 10 นาที

นี้ไงครับถึงละ หามุมดีๆ จะได้ภาพสวยมากครับ

ถ่ายไปเรื่อยๆ ครับ

คิดท่าเอานะครับ

แม่งโคตรเท่ ท่าดีถึงว่าผ่าน

หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็เดินทางกลับโรงแรมกินข้าวเช้า ที่โรงแรมมีข้าวเช้าให้ฟรี ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูเลย มีข้าวผัด มาม่า ขนมปังปิ้ง ไข่เจียว กาแฟ ประมาณนี้ครับ ตักกินตามใจชอบ

แถม 1 รูป ไกด์ที่มาด้วยที่ชื่อ hadi คนที่ถ่ายรูปดาวให้ครับ

หลังจากกินข้าวทำธุระส่วนตัวอะไรเสร็จ ก็ออกเดินทางประมาณ 10.30 น. ที่น้ำตก madakaripura ที่นั้นประมาณบ่าย 2 โมง ผมก็จำเวลาไม่ได้เหมือนกัน ไม่แน่ใจนะครับแต่ถึงช่วงบ่ายนี้แหละ

ตรงที่น้ำตกนี้เราต้องขี่มอเตอร์ไซต์เข้าไปโดยเขาจะมีคนขับให้ ซึ่งมันรวมอยู่ในค่าไกด์ของผมพอดี คนละคัน ขี่มอเตอร์ไซต์เข้าประมาณ 5 นาที แล้วต่อจากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปครับ

ทางเข้าประมาณนี้ ขออภัยสำหรับภาพที่ไม่ชัดนะครับ

จุดเริ่มต้นเดินเท้าครับ โดยเขาจะมี local guide ให้ครับ ขอผมได้ 2 คน ค่าจ้างไกด์พื้นที่ของผมรวมกับค่าไกด์ผมแล้วครับ โอเครเริ่มเดินกันเลย ใช้เวลาเดินถึงที่น้ำตกประมาณ 30 นาที เวลาไม่แน่ใจมากนะครับ

แวะถ่ายรูปกันหน่อย เขาบอกว่านี้คือเทพเจ้าของที่นี้ เป็นเทพเจ้าของฮินดูครับ

กับป้ายด้วยหน่อยละกัน

ภาพระหว่างทางดูไปเรื่อยๆ นะครับ

ให้มือกล้องหน่อย

แม็ค high cost เจ้าของ gopro 5 หน่อย

เดินไปเรื่อยๆ ครับ

ใกล้ถึงละครับ ตอนนี้ละครับต้องใส่เสื้อกันฝนละครับ ไม่งั้นเปียกแน่นอน

เริ่มการปีนเพื่อถ่ายรูปกันครับ

อยากได้มุมไหนเลือกเลยครับ หรือจะถอดเสื้อเพื่อความสวยก็ได้ จากลงไปเดินด้านล่างเหมือนเดิมเข้าไปลึกอีกหน่อยครับ

ตอนนี้ยังกลัวเปียกกันยุ

ขอแนะนำให้ถ่าย Panorama แนวตั้งนะครับไม่ต้องดึงขึ้นมาก จะได้ภาพประมาณนี้จ้า

 

ข้างในเดินเข้าไปอีกได้นะครับ ปีนหินนิดหน่อย ผมเข้าไปละ แต่ภาพที่ไกด์ถ่ายให้มันเบลอมากครับเพราะว่าฝนจะตกพอดีเลยมีไกด์ที่คลุมพื้นที่แถวให้ออกมาเลยเพราะอาจจะมีน้ำป่าเลยถ่ายได้รูปเดียวแต่เบลอ แต่ข้างในวิวสวยมากครับ

นี้ไงครับภาพที่บอกแต่มันเบลอมาก และยังไม่ได้หามุมอะไรเลย รอบนี้คือต้องใส่เสื้อกันฝนอีกรอบเดี๋ยวเปียกครับ ฮ่าๆหลังจากถ่ายภาพอะไรเสร็จเรียบร้อยครับก็เดินทางกลับครับ เออลืมบอกไปครับระหว่างมีห้องน้ำให้เข้าด้วยนะครับ จ่ายค่าผ่านทาง 2,000 idr ครับ

ช่วงขากลับไกด์ผมใจดีมากครับให้คนพาไปเอารถมอเตอร์ไซต์ มารับที่ห้องน้ำระหว่างทางครับ หรือว่าตอนนั้นให้ tip เขาไปคนละประมาณ 40,000 idr ไม่แน่ใจอีกแล้ว ฮ่าๆ แต่ช่วงที่พาเข้าไปในน้ำตกไกด์ดูแลดีมาก โชคดีครับที่ทริปนี้เจอแต่ไกด์ดีๆ

หลังจากกลับถึงรถตู้ สภาพคือกางเกงนี้เปียกหมดครับ แต่ด้วยความเหนื่อยขึ้นรถกลับไปโรงแรมที่แรกที่เราพักครับ New cahaya hotel ถึงโรงแรมประมาณ 19.00 น. เก็บของ กินข้าวกินอะไรเสร็จเรียบร้อย ก็เดินไปดูตลาดนัดหน้าปากซอยหน่อยนิดนึ่ง แต่รอบนี้ไปแต่หนุ่มๆ เพราะสาวๆ เขาเหนื่อยกันครับ

สักหน่อยละกัน ฮ่าๆ

ถึงละครับตลาดนัด ร้านของเล่นเด็ก แลดูไฮเทคมาก

ประมาณนี้ครับบรรยากาศตลาดนัดตอนกลางคืน หลังจากเดินตลาดเสร็จเนื่องด้วยไม่มีเบียร์กิน ก็กลับห้องนอนสิครับ

10 May 2017

เก็บของ กินข้าวเช้าอะไรที่โรงแรมเสร็จก็ check-out ออกประมาณ 10.30 น. ใช้เวลาเดินทางถึงสนามบินไม่ถึง 10 นาที จากนั้นก็ say goodbye กับไกด์ คราวนี้แหละใครอยากซื้อของฝากก็เชิญเลยนะครับ แนะนำของฝากที่นี้น่าจะเป็น กาแฟนะครับ เพราะเครื่องออก 13.20 น. แต่โชคร้ายเครื่องผมประมาณ 1 ชม. ครับ ทำให้ไปถึงสิงคโปร์ช้า แต่ดีที่ไม่ตกเครื่องที่สิงคโปรรอบ 19.15 น. เวลาท้องถิ่นนะครับ ถึงไทยประมาณ 21.00 Time to say goodbye ครับ

จบละครับการเดินทางของผม ถ้าผิดพลาดอะไร หรือพิมพ์อะไรผิดไปก็ขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ลิงค์ด้านล่างนะครับ inbox มาเลยจ้า

http://www.facebook.com/por.ku70